ÊÒÃйèÒÃÙéà¡ÕèÂǡѺ¹éÓÁѹá¡çÊâ«ÎÍÅì E20

Organization Chart

E20 คืออะไร

                E20   คือน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอล     ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5 % ในอัตราส่วน เบนซิน 80 : เอทา นอล 20  ได้เป็นน้ำมัน  E 20 ออกเทน 95  ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน 

E20 ใช้กับเครื่องยนต์แบบไหน

                E20         ใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ E 20 โดยรถที่สามารถใช้น้ำมัน แก๊สโซฮอล์  E 20 ได้ยัง สามารถ ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน  95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์  95 ได้อีกด้วย 

 เอทานอล ใน E20 ทำจากอะไร

                E20         มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตได้เองจากพืชผลเกษตรในประเทศถึง 20% (มันสำปะหลัง) ซึ่งพลังงานชีวภาพเหล่า นี้ช่วยลดมลพิษจากการเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ และสารไฮโดรคาร์บอนลงจึงลดการเกิดภาวะโลกร้อน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ E20

                1.สมรรถนะของเครื่องยนต์เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันเบนซิน 
                                - ด้วยสัดส่วนของเอทานอลที่เพิ่มขึ้นเป็น 20% ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์   ทำให้เครื่อง ยนต์ สะอาดขึ้น กำลังของ เครื่องยนต์ และแรงบิดจึงมีประสิทธิภาพดีขึ้น

                                - อัตราเร็วสูงสุดใกล้เคียงกับการใช้น้ำมันเบนซิน 

                2.รถรุ่นไหนบ้างที่ใช้ E20 ได้

                                ในเบื้องต้นจะมีรถยนต์แก๊สโซฮอล์ E 20 จำหน่ายในปี 51 ประมาณ 60,000  คันจาก 5 ยี่ห้อ (ข้อมูลจากบริษัทรถยนต์ ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2550) 
                                - Ford                    : Focus ทุกรุ่นตั้งแต่ ปี 2005, Escape 3.0 L ตั้งแต่ปี 2005
                                - Honda                 : Accord, CR-V, Civic, City รุ่นปี 2008
                                - Mazda                 : Mazda 3 

                                - Mitsubishi           : New Space Wagon minor change
                                - Nissan                 : Tiida, Teana รุ่นปี 2008
                                - Toyota                : Camry, New Altis, New Vios รุ่นปี 2008

                3.รถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ อยู่ในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปใช้  E 20 ได้หรือไม่ 

                                รถที่จะใช้ E 20 ได้ ต้องเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะ โดยมีการพัฒนาอุปกรณ์บางอย่างในระบบ¹éÓมันเชื้อ เพลิงให้ เหมาะสม เพื่อรองรับส่วนผสมของเอทานอลที่สูงกว่าร้อยละ 10

                                ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณเอทานอลที่สูงขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในแก๊สโซฮอล์ E 20 นั้น จะส่งผลถึง ความสามารถ ในการกัด กร่อนยาง และโลหะ หรือทองแดง ในระบบเก็บส่งน้ำมันในเครื่องยนต์

                                จากการศึกษาพบว่าชิ้นส่วนที่สัมผัสกับน้ำมันโดยตรง เช่น ถังน้ำมัน ท่อส่งน้ำมัน หัวฉีด คาบูเรเตอร์ ที่ทำจากโลหะ ทองเหลือง ทองแดง ยาง พลาสติก รวมถึงระบบสมองกล ECU จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

                                ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์เพียงรายเดียวที่ออกแบบชิ้นส่วนให้รองรับการใช้ E 20 ได้แก่ ฟอร์ด โฟกัส โดยปรับเปลี่ยน โลหะบางชนิดมาใช้สเตนเลสแทน ซึ่งทนทานกว่า และคาดว่าในปีนี้ค่ายรถยนต์อื่นๆ จะเปิดตัวรถยนต์ที่รองรับการใช้ E 20 หลังรัฐบาลให้การสนับสนุนมาตรการด้านภาษีกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E 20 ในปี 2551

                4.มีประเทศไหนบ้างที่ใช้น้ำมัน  E 20 

                                มีหลายประเทศใช้เอทานอลผสมในสัดส่วน 15% - 100% (E15-E100) เช่น บราซิล, อเมริกา, สวีเดน, อาร์เจนตินา เป็นต้น

                5.ในเมืองไทยสามารถเติม E 20 ได้ที่ไหนบ้าง

                สถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 18 แห่ง โดยเป็นของ บางจาก 5 แห่ง และของ ปตท อีก 12 แห่ง  

                                สถานีบริการน้ำมัน บางจาก ที่จำหน่าย E20 5 สถานี
                                -
สาขาสุขาภิบาล 1
                                - สาขาเกษตร
                                - สาขาคู่ขนานรามอินทรา-อาจณรงค์ 2
                                - สาขาเอกมัย
                                - สาขาพระราม 3

                                สถานีบริการน้ำมันปตท. ที่จำหน่าย  “ พีทีที E20 พลัส ”  12 สถานี

                - สาขาทางด่วนบางนาขาออก(สุขุมวิท 62)    - หจก. ศรีเจริญภัณฑ์ (วิภาวดี)
                - สาขาบางบอน                                                   - บจก. เกษตรนวมินทร์ปิโตรเลียม

        - สาขากรมช่างอากาศ                                         - บจก. ที.3 เจ. (ราชพฤกษ์)

        - สาขาการท่าอากาศยาน 2 (ดอนเมือง)           - สาขาองค์การแบตเตอรี่                      
        - บจก. ปิโตรเลียมน้ำมัน (รามอินทรา)           - หจก. สุวัจชัยออยล์ (ประชาชื่น)
        - สาขาสำนักงานใหญ่                                        - บจก.นาคสวัสดิ์

                6.อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ E20
               
กระทรวงการคลังได้ออกประกาศ เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 80) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 (เอกสาร แนบ 2) และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 โดยลดอัตราภาษีสรรพสามิต รถยนต์ที่สามารถ ใช้เชื้อเพลิงประเภท เอทานอล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้

                - รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 2,000 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์  ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตราภาษี ที่จัดเก็บในปัจ จุบัน ร้อยละ 30    (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 25

                - รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,000 ลบ.ซม. แต่ไม่เกิน 2,500 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตรา ภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 35 (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 30

                - รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ลบ.ซม. แต่ไม่เกิน 3,000 ลบ.ซม. และมีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 220 แรงม้า จากอัตรา ภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันร้อยละ 40 (ซึ่งมีเพดานภาษีร้อยละ 50) ลดลงเหลือร้อยละ 35

                - รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 3,000 ลบ.ซม. หรือมีกำลังเครื่องยนต์เกิน 220 แรงม้า จัดเก็บคง เดิมในอัตราภาษีจัดเก็บ ใน ปัจจุบันร้อยละ 50 

                7.รถยนต์ที่จะใช้อัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่นี้ จะต้องมีคุณลักษณะ   ครบถ้วนทุกข้อดังนี้
              
                 1.เป็นรถยนต์ที่ถูกออกแบบและผลิตให้ใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลไม่น้อยกว่าร้อยละ20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมัน

เชื้อเพลิง ได้ และต้องผลิตโดยโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตรถยนต์รุ่นนั้นๆ โดยตรง

                                2. มีการรับประกันจากผู้ผลิตว่าสามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้
                                3. ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานมลพิษจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสา- หกรรม (สมอ.) ไม่ต่ำกว่าระดับ มอก. 2160-2546

                8.มาตรฐานน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20
     
                      ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงานเรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ พบว่าคุณภาพของน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E 20 นั้น แทบจะไม่ได้แตกต่างจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 มีค่าเพียง 3 ค่าที่แตกต่างกันคือ
                              1. อุณหภูมิการกลั่น
                              2. ความดันไอสูง
                              3. ปริมาณผสมเอทานอล

                9.ประโยชน์ของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ต่อผู้บริโภค
     
                        1. ผู้บริโภคได้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ในราคาถูกลงกว่าลิตรละ 5 บาท
                              2. ราคารถยนต์ที่ใช้ E20 ถูกลงจากการลดภาษีสรรพสามิตประมาณคันละ 5  หมื่น -1 แสนบาท

                10.ข้อดีของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์
     
                       1. การเผาไหม้ของ E 20 สมบูรณ์กว่าน้ำมันเบนซินปกติ จึงช่วยเพิ่มกำลังและ แรงบิดของเครื่องยนต์
                              2. การใช้แก๊สโซฮอล์ E 20 ช่วยลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกกว่าร้อยละ 30

                              3. ช่วยพยุงราคาพืชผล(มันสำปะหลัง) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล

                              4. ลดการนำเข้าน้ำมันเบนซิน

FFV (Flexible Fuel Vehicle)

                เป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบให้มีระบบเซ็นเซอร์สำหรับตรวจสอบอัตราส่วนผสมของเอทานอลกับน้ำมันเบนซิน และสา มารถใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลในอัตราส่วนต่างๆ (E15 – E100) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                รถยนต์ FFV ได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุระบบเชื้อเพลิง เช่น ถังน้ำมัน ท่อจ่ายน้ำมัน และหัวฉีดน้ำมัน ให้ทนต่อการกัดกร่อนของ เอทานอลได้ ซึ่งโดยรวมแล้วระบบต่างๆ ของรถยนต์ FFV แทบจะไม่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป

                เพิ่มเติมเรื่องอื่นๆ

               - ความคืบหน้าเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำมันแก็สโซฮอล์ที่มีส่วนผสม ของเอทานอล 85% หรือ E85 โดยปัจจุบันกำ ลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยของบางจาก และมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถนำมาใช้ในประเทศไทยภายในปี  2552 นี้ ท่ามกลางการคัดค้าน ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายราย

                - ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใด ให้การรับรองรถยนต์ที่ผลิตและจำหน่ายก่อนปี 2551 ว่าสา มารถใช้น้ำมัน E 20ได้  ยกเว้นฟอร์ด บางรุ่น

                - ราคาน้ำมันแก็สโซฮอล์ E 20 ในปัจจุบันจะถูกกว่าเบนซิน 95 อยู่ถึง 6 บาทโดยจะมีผลถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 นี้

                ปัญหาจาก E20

                                เนื่องจาก เอทานอลคือแอลกอฮอล์บริสุทธิ์  มีคุณสมบัติเด่นที่ต่างจากน้ำมันบนซิน เช่น จุดเดือดของแอลกอฮอล์จะต่ำ กว่า น้ำมันทำให้มีแรงดันไอมากกว่า ซึ่งจะมีปัญหากับรถบางรุ่น โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าที่ใช้คาร์บิวเรเตอร์ ที่มีถังน้ำมันติดตั้งห่างจากตัว เครื่องยนต์มากเกินไป หรือรถยนต์ที่มีขนาดของท่อเชื้อเพลิงที่เล็กเกินไป อาจมีผลทำให้แอลกอฮอล์ที่อยู่ ในท่อเชื้อเพลิงเปลี่ยนสภาพ จากของเหลวเป็นไอได้ง่ายเนื่องจากความฝืดของท่อมีมากส่งผลให้การหมุนของเครื่องยนต์มีความเร็วรอบไม่สม่ำเสมอ เครื่องจะกระตุก หรือดับในบางช่วง

                           นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังมีคุณสมบัติการกัดกร่อนสูง ยิ่งสัดส่วนของแอลกอฮอล์ในน้ำมันมากขึ้นจะยิ่งเพิ่มคุณสมบัติ การกัดกร่อนให้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งสามารถกัดกร่อนยาง พลาสติกบางชนิด และโลหะประเภททองเหลือง ทองแดง และอาจส่งผลให้ ท่อส่งน้ำมันไปจนถึงถังน้ำมันเกิดการผุกร่อนจนทะลุได้ภายในระยะเวลาประมาณ ครึ่งปี – 1 ปี

                          สำหรับผู้ที่ใช้ แก็สโซฮอล์ E10 แล้วยังมีปัญหา ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้รถที่มักจะจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้ใช้รถ เป็นประจำ ทำให้แอลกอฮอล์กับน้ำมันเกิดการแยกตัวออกจากกันเพราะ ทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป แอลกอฮอล์ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า จะลอยอยู่ด้านบน

                             เÁ×èอมีการใช้รถ เชื้อเพลิงที่ถูกสูบเข้าไปในห้องเครื่องจะไม่ใช่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ แต่จะเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น สูงมากหรือเทียบได้กับการใช้แอลกอฮอล์ล้วน ๆ เป็นเชื้อเพลิง  ทำให้เกิดปัญหากับระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์

ที่มาของข้อมูล

      - บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด(มหาชน)

      - บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)

      - สำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน

      - หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ

      - หนังสือพิมพ์  ไทยรัฐ

      - หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ

      - เว็บไซท์ ไทยแลนด์ อินดัสตรี ดอทคอม

* สงสัยเรื่องใดเพิ่มเติม ยกหูโทรศัพท์ภายใน กด 414ได้ครับ

     ส่วนพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์   

     ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและระบบ

**ขอขอบคุณ พี่ต้น ที่ส่งสาระน่ารู้มาให้นะครับ**