Lecture >> Tape worms >> Echinococcus  granulosus
พยาธิชนิดนี้พบในลำไส้เล็กของสุนัข พยาธิมีขนาดเล็ก ประมาณ 2.1-5.02 ไมครอน โดยปกติพยาธิมี 3 ปล้อง โดยปล้องสุดท้ายมีความยาวกว่า 1/2 ของความยาวของลำตัว scolex มี hook 2 แถว จำนวน 30-60 อัน โดย hook อันใหญ่ มีขนาด 33.2 – 39.8 ไมครอน และ hook อันเล็ก มีขนาด 22.1-34 ไมครอน ช่องเปิดของอวัยวะสืบพันธุ์เปิดสลับกันแต่ไม่สม่ำเสมอที่ใต้บริเวณกึ่งกลางของปล้องเล็กน้อย อัณฑะมีจำนวน 38-52 อัน ในแต่ละปล้อง และรังไข่มี 2 ก้อน เป็นรูปไต (Kidney) ส่วนมดลูกในปล้องสุกมีลักษณะเป็นถุงไข่เหมือนของ Taenia

วงจรชีวิต
     ไข่พยาธิที่ถูกปล่อยออกมากับอุจจาระจะถูกโฮสต์กึ่งกลางซึ่งเป็นโค แพะ แกะ สุกร และคน กินเข้าไป ตัวอ่อน onchosphere จะฟักออกจากไข่ที่บริเวณส่วนต้นของลำไส้ จากนั้นจะไชเข้าในผนังลำไส้ไปที่เส้นเลือดของเยื่อแขวนลำไส้ (mesentery) และเคลื่อนที่ไปยังอวัยวะต่างๆโดยเฉพาะที่ตับและปอด ตัวอ่อนของพยาธิจะเจริญเป็นถุงน้ำที่เรียกว่า hydrated cyst โดยใช้เวลาประมาณ 5 เดือน และผนัง cyst มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นคือ
1. ผนังชั้นนอกจะเปราะแตกง่ายมีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวทึบแสงและเป็น non-nucleated cyst
2. ผนังชั้นในของ cyst เป็น nucleated germinal layer และที่ผนังนี้จะมีการแตกหน่อ(budding) กลายเป็น cystic cavity และ cyst ที่เกิดใหม่นี้จะมี stalk ติดอยู่ที่ผนัง เราเรียกว่า “brood capsule”
ภายใน brood capsule จะมีการเจริญของ scolices จำนวนมาก และ brood capsule อาจหลุดออกจากผนังของ mother cyst และลอยอยู่ใน fluid บางทีก็พบ scolex หลุดออกมาลอยอยู่เช่นกัน เราเรียกพวกที่หลุดออกมาลอยทั้งหมดว่า “hydatid sand”

Hydatid cyst ที่พบในคนมี 3 แบบ คือ
  1. Unilocular cyst
  2. Osseous cyst
  3. Alveolar cyst

(1) Unilocular cyst
  - เป็น hydatid cyst ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโต ซึ่งมีขนาดต่างๆ กัน เช่น ในสุกรมีขนาด 4-5 ซม. แต่ในคนมีขนาด 15-20 ซม.
  - Cyst จะมีสีขาว-เหลือง มีของเหลวอยู่ภายใน ซึ่งเป็น albumin, creatinine, inosite, lecithin, urea, glucose, sodium chloride, phosphate, sodium sulphate และ sodium succinate, calcium succinate และมี enzyme เช่น proteolytic enzyme, lipase, protease และ oxidases
ผนังชั้นนอกเป็น non-nucleated มี hyaline cuticle หนา 1 ซม. กั้นระหว่าง germinal layer กับ outer layer (คอยกั้นสิ่งที่เป็นพิษไม่ให้เข้าใน cyst)
ผนังด้านในของ fertile cyst จะเป็นปุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ๆ brood capsule กำลังเจริญขึ้นมาจาก nucleus cell ของ germinal layer
ภายใน brood capsule หนึ่งอันจะมี scolices มากถึง 2 ล้าน scolices
 - endogenous daughter cyst เป็นการเกิดขึ้นตามปกติ ซึ่งเกิดขึ้นมาจาก
  1. germinal membrane
  2. brood capsule
  3. scolices
 - exogenous daughter cyst เป็นการเกิด daughter cyst ภายนอก mother cyst ซึ่งมีสาเหตุจาก trauma หรือสภาวะสิ่งแวดล้อมภายในไม่เหมาะสม โดยผนังชั้น germinal layer จะมี budding ออกมาจากทางด้านนอก มีการคอดและสร้างเป็น exogenous daughter cyst ต่อมาจะหลุดออกไปและสามารถสร้าง exogenous granddaughter cyst ได้เช่นกัน
(2) Osseous cyst
  - เป็น hydatid cyst ซึ่งเจริญในกระดูก และมีรูปร่างไปตามความยาวของ bone canal โดยไม่มี fibrous capsule และ cuticle
  - cyst อาจทำลาย tissue ของกระดูกและงอกเข้าไปใน medullary cavity ทำให้กระดูกหักง่าย และมีถุง cyst เล็กๆ เป็นจำนวนมาก ถุงเหล่านี้จะให้ exogenous daughter cyst
  - osseous cyst จะไม่มีผิวปกคลุมด้านนอก แต่ด้านใน cyst จะมี pseudotuberculous tissue reaction
ภายใน cyst อาจมีหรือไม่มี fluid ก็ได้ cyst จึงมีลักษณะเป็น semisolid โดยไม่มี scolices
(3) Alveolar cyst
  - เป็น cyst ที่เกิดมาจาก unilocular cyst โดยมี vesicle เกิดขึ้นมากมายในตับของโค กระบือ และคน
  - cyst มีลักษณะคล้ายของพยาธิ E. muttilocularis แต่ไม่มี metastasis
  - growth cyst มีลักษณะขรุขระ ด้านนอกเป็นร่างแห ซึ่งแบ่งเนื้อเยื่อรอบๆ ออกจาก cyst อย่างเด่นชัด
  - ภายใน cyst ประกอบด้วย mass ลักษณะคล้าย jelly
  - ปกติ alveolar cyst จะ sterile แต่บางครั้งจะมี brood capsule และ scolex
  - cyst ส่วนใหญ่จะมีเนื้อตายอยู่ตรงกลาง และเกิดขบวนการ calcification sterile cyst ที่พบในสัตว์ต่างๆ มีดังนี้
  - โค กระบือ พบ sterile cyst 90%
  - สุกร พบ sterile cyst 20%
  - แกะ พบ sterile cyst 8%
  - hydatid cyst ที่แตกเข้าในช่องท้อง ส่วนของ scolice, brood capsule หรือ germinal layer สามารถสร้าง bladder ขึ้นใหม่ได้
  - สุนัขเป็นพยาธิได้โดยกิน cyst เหล่านี้เข้าไป และกลายเป็นตัวแก่ในลำไส้เล็ก


พยาธิสภาพและอาการ
สุนัข
  - ถ้ามีพยาธิจำนวนมากๆ ในลำไส้ทำให้เกิด enteritis
  - hydatid cyst ที่ปอด จะทำให้หายใจลำบาก (dyspnea)
hydatid cyst ที่ตับ จะทำให้การย่อยอาหารไม่ปกติ และท้องมาน
  - ถ้า hydatid cyst อยู่ในอวัยวะที่ไม่สำคัญจะไม่รุนแรง เพราะ cyst ค่อยๆ เจริญตัวและร่างกายจะปรับตัวให้เข้ากับ cyst
  - พยาธิสภาพมักเกิดในคน แต่สัตว์มักเป็นเพียง reservoirs host เท่านั้น

คน
  - การทำลายเกิดขึ้นเนื่องจาก mechanical และ toxic
  - การขยายตัวของ unilocular cyst มากๆ ทำให้ cyst แตก ของเหลวและสารภายในของเหลวจะทำให้เกิด anaphylactic reaction ขึ้น
  - osseous cyst จะทำลายกระดูกทำให้กระดูกหัก
  - ชิ้นส่วนต่างๆ ของ cyst ที่หลุดเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เกิด arterial embolism
  - cyst ที่เจริญอยู่ในสมอง หรือ orbital capillary หรือ heart valve จะทำให้เกิดการอุดตัน และตายได้
  - cyst ที่ปอด จะทำให้เกิด tumor ใน bronchi และ bronchioles เมื่อ cyst แตก content ที่อยู่ภายในจะทำให้เกิดอาการไอ และมีของเหลวไหลออกมาทางปากและจมูก ถ้า cyst ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของปอดจะเกิด calcification ตามมา
  - cyst ที่เจริญแบบ extra-hepatic, extra-pulmonary localization พบได้ 10-20% โดยพบมากที่สุดที่ ม้าม ไต สมอง หัวใจ กระดูก, peritoneum, pleura

การวินิจฉัย
  - unilocular cyst มักจะไม่สามารถรู้ได้ในระยะเริ่มต้น นอกจาก cyst จะไปอยู่ในอวัยวะที่สำคัญและมีการทำลายหรือขัดขวางการทำงานของอวัยวะนั้น
  - การวินิจฉัยโรค สามารถอาศัยวิธีการต่างๆ ช่วย เช่น
  1. Roentgenogram เป็นการใช้ x-ray ช่วยวินิจฉัย hydatid cyst
  2. Hydatid thrill: อาศัยอาการที่เกิดจาก unilocular hydatid cyst ของอวัยวะต่างๆ ในช่องท้อง
  3. Exploratory cyst puncture: การเจาะ cyst ซึ่งมักจะอันตรายเมื่อเกิดการ leak ของๆ เหลว และ scolices (hydatid sand) ทำให้เกิด anaphylactic shock ได้
  4. Eosinophilia: ไม่สามารถบอกได้แน่นอน
  5. Immunologic method: skin test, CFT, Precipitin test, haemagglutination & bentonite flocculation, latex slide agglutination test และ FA test
  - indirect haemagglutination test ร่วมกับ double diffusion test
  - precipitation test โดยใช้ scolices เป็นแอนติเจน
  - ELISA test

การรักษา
  - adult ให้การรักษาเหมือน D. caninum
  - cyst ใช้วิธีการผ่าตัดเอาออก (cyst ห้ามแตก)
  - ทดลองใช้ mebendazole
  - cyst ที่แตกต้องผ่าเอาออกเพราะ cyst จะถูกมีเชื้อราพวก Aspergillus เจริญแทรกทำให้เกิดเป็นฝี หรือ mycetoma


  footer footer  footer footer